Mobile Versionข่าวจากหนังสือพิมพ์ สยามรัฐฉบับวันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554การรวมพลังชาวพุทธทั่วโลก เพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนาโดย พระมหา ดร.สมชาย ฐานวุฑโฒผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายการรวมพลังชาวพุทธทั่วโลก เพื่อฟื้นฟูพระพุทธศาสนาตอน พระพุทธศาสนากับกระแสความนิยมในปัจจุบันศาสนาใหญ่ๆที่เป็นศาสนาหลักของโลกอยู่ในเวลานี้ได้แก่ ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ศาสนาฮินดู และพระพุทธศาสนา หากมองย้อนกลับไปเมื่อ 200 ปี ที่แล้ว พระพุทธศาสนา ของเราได้ชื่อว่าเป็นศาสนาที่มีศาสนิกมากที่สุดในโลก และเป็นศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน แต่ปัจจุบันหาเป็นใหญ่ที่สุดในโลกด้วยเช่นกัน แต่ปัจจุบันหาเป็นเช่นนั้นไม่ปรากฏว่า คริสต์มีศาสนิกอยู่ประมาณ 2,000 ล้านคน (ประกอบด้วย 3 นิกายใหญ่ คือ คาทอลิก โปรเตสแตนต์ กรีกออร์โธด็อกซ์) อิสลามมีจำนวน 1,200 ล้าน ฮินดูมี 900 ล้านคน (ส่วนใหญ่อยู่ในประเทศอินเดีย) ส่วนชาวพุทธเรา ตัวเลขระบุไว้ว่ามีอยู่ราว 400 ล้าน คน ส่วนที่เหลือก็เป็นพวกที่นับถือศาสนาท้องถิ่น เช่น ชินโต เต๋า ขงจื้อ และอื่นๆรวมทั้งคนไม่มีศาสนาอีกประมาณ 2,300 ล้านคนจากจำนวนประชาการอีกประมาณ 2,300 ล้านคนจากจำนวนประชากรโลกที่มีอยู่ราว 6,800 ล้านคนในปัจจุบันดังที่กล่าวมาแล้วว่าเมื่อ 200 ปีก่อน พระพุทธศาสนาได้ชื่อว่าเป็นศาสนาที่มีศาสนิกมากที่สุดในโลกศาสนาได้ชื่อว่าเป็นศาสนาที่มีศาสนิกมากที่สุดในโลกแต่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 400 ล้านคนหรือมากกว่านั้นเพระสถิติที่รายงานนี้ทำโดนคนศาสนาอื่นซึ่งอาจทำให้ตัวเลขของศาสนาพุทธบิดเบือนจากความจริงไปบ้าง อย่างในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้นตัวเลขจากการรายงานปรากฏว่าจำนวนชาวพุทธเป็นศูนย์ ทั้งๆที่ ทั้งๆที่คนจีน 1,300 กว่าล้านคนในอดีตนั้นคือพุทธศาสนิกชนเกือบทั้งหมด อย่างไรก็ตาม จากศาสนาที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้วลดลงมาเหลือ 400 ล้านคน ต้องถือว่าเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ เพราะฉะนั้นโจทย์ใหญ่ในขณะนี้มีอยู่ว่า ทำอย่างไรชาวพุทธ 400 ล้านคนจึงจะรวมพลังช่วยกันฟื้นฟูพระพุทธศาสนาไปสู่ชาวโลกอีก 6,000 กว่าล้านคนที่เหลือ อย่างไรก็ดี เป็นที่น่ายินดีที่พบว่า ขณะนี้สถานการณ์โดยรวมของชาวโลกกำลังตื่นตัวให้ความสนใจพระพุทธศาสนากันเป็นจำนวนมาก จน Time Magazineนิตยสารรายสัปดาห์ของอเมริกา ถึงขนาดพาดหัวปกหน้าโดยใช้คำว่า“ชาวอเมริกากำลังตื่นตัวสนใจพระพุทธศาสนาอย่างยิ่งนิตยสารรายสัปดาห์ของอเมริกา ถึงขนาดพาดหัวปกหน้าโดยใช้คำว่า “ชาวอเมริกากำลังตื่นตัวสนใจพระพุทธศาสนาอย่างยิ่ง นิตยสารฉบับนี้ไม่ใช้หนังสือพิมพ์เล็กๆ ที่จะเล่นข่าวหรือหวา และไม่ใช้เป็นคอลัมน์เล็กที่จะเขียนเรื่องอะไรตนเองสนใจก็ได้ แต่นี่เป็นนิตยสารที่ทรงอิทธิพลอันดับหนึ่งของโลก ปกติการเลือกข่าวหลักของฉบับมานำเสนอนั้นจะต้องมีการประชุมกองบรรณาธิการทั้งหมดเพื่อลงข่าวนี้ ทำไมเขาถึงให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนาขนาดนี้? และไม่ได้พาดหัวข่าวฉบับเดียวเท่านั้น แต่ยังมีลงต่อเนื่องในฉบับอื่นๆ อีก บอกว่านักวิทยาศาสตร์เขาศึกษาวิจัยเรื่องสมาธิ ทางการแพทย์ก็เชียร์ให้นั่งสมาธิ ชาวอเมริกันนับ 10 ล้านคนก็นั่งสมาธิทุกวันthe science of meditationถามว่า....นั่งไปทำไม?คำตอบก็คือ...Because meditation works. (ก็เพราะสมาธิมันดีนะสิ)อีกฉบับหนึ่งมีภาพดาราที่มีชื่อเสียงกำลังนั่งสมาธิอยู่ เขียนว่า The Science of Meditation คือ ศาสตร์ของสมาธิ ชาวอเมริกันโดยทั่วไปเขาถือว่า สมาธิเป็นเรื่องที่ข้ามพ้นความเชื่อ กลายเป็นศาสตร์ที่ทุกคนจะต้องยอมรับ สรุปคือ คนที่ไม่เชื่อเรื่องสมาธิ ขณะนี้เป็นคนกลุ่มน้อยในสังคมอเมริกาไปเสียแล้วแพทย์แห่งมหาวิทยาลัยฮาวาร์ดหรือ ที่เรียกว่า Harvard Medicine School ถือเป็นคณะแพทย์ศาสตร์ที่โด่งดังอันดับหนึ่งของโลก ก็แนะนำคนไข้ให้นั่งสมาธิเพราะผลทางการแพทย์พิสูจน์แล้วว่า นั่งสมาธิแล้วเพราะผลทางการแพทย์พิสูจน์แล้วว่า นั่งสมาธิแล้วทำให้สุขภาพดี ใครป่วยอยู่ก็มีส่วนทำให้หายป่วยเร็วขึ้น บุคคลสำคัญๆ ของอเมริกาอย่างเช่น ฮิลลารีคลินดับ อดีตสุขภาพสตรีหมายเลขหนึ่งของอเมริกาก็พูดถึงสมาธิเสมอๆ อัล กอร์ อดีตรองประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา ก็นั่งสมาธิเป็นประจำ ทั้งยังแนะนำให้ทุกคนให้นั่งสมาธิ เรื่องนี้นำมาจากนิตยสาร Time Magazine ฉบับวันที่ 4 สิงหาคม พุทธศักราช 2546ชี้ให้เห็นว่ากระแสโลกให้การยอมรับเรื่องสมาธิและเรื่องพระพุทธศาสนาเป็นไปอย่างกว้างขวางข่าวจากหนังสือพิมพ์ สยามรัฐ(ติดตามตอนต่อไป...)ที่มา... วารสารกัลยาณมิตรฉบับพระสังฆาธิการปีที่ 14 ฉบับที่ 22 พ.ศ. 2554หน้า 70-79
http://goo.gl/MFH44
พิมพ์บทความนี้
