กรณีศึกษาโรงเรียนอนุบาลสุธีธร ตอนที่ 14 (ตอนจบ)

สาเหตุที่ทำให้พวกเขาต้องมาเกิดเป็นภูติที่ชอบใช้วิชาไสยเวทย์สายดำ ในสมัยที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ เนื่องจากพวกเขามีความชอบและสนใจในการศึกษาวิชาไสยเวทย์สายดำอยู่เป็นประจำ https://dmc.tv/a15090

บทความธรรมะ Dhamma Articles > ช่วงเด่นฝันในฝัน > ปกิณกธรรม > กรณีศึกษากฎแห่งกรรม
[ 28 ม.ค. 2556 ] - [ ผู้อ่าน : 18274 ]
 
ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 25 มกราคม พ.ศ.2556
 
 
 
 
 
Case Study
โรงเรียนอนุบาลสุธีธร ตอนที่ 14 (ตอนจบ)
เรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยา
  
 
 
        สำหรับสาเหตุที่ทำให้พวกเขาต้องมาบังเกิดเป็นภูติ ที่ชอบใช้วิชาไสยเวทย์สายดำ หรือวิชาอาคมที่ใช้ในการเบียดเบียนและทำร้ายมนุษย์นั้น ทั้งนี้ก็เกิดจากในสมัยที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ พวกเขามีความชอบและสนใจในการศึกษาวิชาไสยเวทย์สายดำอยู่เป็นประจำ ดังนั้น เมื่อถึง ณ ช่วงเวลาที่พวกเขากำลังจะเสียชีวิต ด้วยความที่ใจของพวกเขามีความผูกพันอยู่กับวิชาไสยเวทย์สายดำเป็นอย่างมาก กอปรกับ ณ ช่วงเวลานั้น บาปที่พวกเขาได้เคยกระทำเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ยังไม่ได้ช่องที่จะส่งผล ด้วยเหตุนี้เอง จึงทำให้พวกเขาต้องมาบังเกิดเป็นภูติประเภทนี้นั่นเอง
 
สาเหตุที่ทำให้พวกเขามาบังเกิดเป็นภูติที่ชอบใช้วิชาไสยเวทย์สายดำ
สาเหตุที่ทำให้พวกเขามาบังเกิดเป็นภูติที่ชอบใช้วิชาไสยเวทย์สายดำ
 
 
        ส่วนว่าพวกเขาจะต้องไปบังเกิดเป็นภูติอยู่ ณ ที่แห่งไหนนั้น ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับเหตุปัจจัยหลายๆ ประการ ยกตัวอย่างเช่น ถ้าหากพวกเขามีความห่วงหรือผูกพันอยู่กับสถานที่ใดเป็นพิเศษ พวกเขาก็จะต้องไปเฝ้ารักษาอยู่ ณ สถานที่แห่งนั้น โดยพวกเขาก็จะใช้วิชาอาคมที่เคยร่ำเรียนมาในสมัยที่ยังมีชีวิต ดูแลรักษาพื้นที่แห่งนั้นอยู่ตลอดเวลา เช่น ภูติที่หวงแหนและเฝ้าพื้นที่ป่า เวลามีใครเข้ามารุกรานในเขตพื้นที่ของภูติพวกนี้ พวกเขาก็จะเกิดความไม่พอใจ และเมื่อภูติพวกนี้เกิดความไม่พอใจแล้ว พวกเขาก็จะใช้ฤทธิ์ขับไล่ หลอกหลอน หรือทำร้ายบุคคลนั้นๆ หรือไม่ พวกเขาก็อาจจะแปลงกายเป็นสัตว์ประเภทต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเสือ หมาดำ หรืองู เป็นต้น เพื่อมุ่งหมายที่จะเข้าไปทำร้ายบุคคลนั้นๆ ไม่ให้เข้ามารุกรานพื้นที่ป่าของพวกเขา แต่พวกเขาก็จะสามารถทำร้ายได้เฉพาะผู้ที่เคยมีวิบากกรรมร่วมกันมากับพวกเขาเท่านั้น เป็นต้น
 
ภูติที่หวงแหนและเฝ้าพื้นที่ป่า
ภูติที่หวงแหนและเฝ้าพื้นที่ป่า
 
 
        หรือถ้าหากพวกเขายังมีความอาฆาต หรือจองเวรกับใครเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิต เช่นมีคนมาฆ่าหรือมาทำร้ายพวกเขา เมื่อพวกเขาละจากโลกนี้ไปแล้ว พวกเขาก็จะไปบังเกิดเป็นพวกภูติที่คอยตามไปล้างแค้น หรือคอยคิดบัญชีกับคนที่พวกเขาผูกอาฆาตเอาไว้ ด้วยการตามไปหลอกหลอนหรือทำร้ายคนเหล่านั้น เป็นต้น
 
ภูติที่คอยตามไปล้างแค้น
ภูติที่คอยตามไปล้างแค้น
 
 
        หรือภูติบางประเภท ในสมัยที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาเป็นคนมักโกรธ หวงทรัพย์ และชอบที่จะศึกษาวิชาไสยเวทย์ เพื่อไปทำร้ายคนอื่นหรือไปทำร้ายทรัพย์สมบัติของผู้อื่น เมื่อคนพวกนี้ละจากโลกนี้ไปแล้ว พวกเขาก็จะไปเกิดเป็นภูติที่คอยเฝ้าทรัพย์ของตนเองอยู่ตลอดเวลา เป็นต้นนั่นเอง
 
ภูติที่คอยเฝ้าทรัพย์ของตนเองอยู่ตลอดเวลา
ภูติที่คอยเฝ้าทรัพย์ของตนเองอยู่ตลอดเวลา
 
 
        ส่วนปีศาจนั้น ก็มีหลากหลายประเภทหรือหลากหลายรูปแบบเช่นเดียวกัน แต่ในวันนี้คุณครูไม่ใหญ่ก็จะขอยกตัวอย่างปีศาจขึ้นมาพอเป็นสังเขป ดังต่อไปนี้ ปีศาจตัวอย่างที่ 1. คือ ปีศาจที่มีรูปร่างลักษณะน่าเกลียดน่ากลัว และมีอวัยวะที่ผิดปกติไปจากโครงสร้างร่างกายของมนุษย์ เช่น หัวไปทางหนึ่งตาไปอีกทางหนึ่ง หรือมีกายบูดเบี้ยวบิดเบี้ยวไปทั้งตัว เป็นต้น
 
ปีศาจที่มีรูปร่างลักษณะน่าเกลียดน่ากลัว
ปีศาจที่มีรูปร่างลักษณะน่าเกลียดน่ากลัว
 
 
        ส่วนสาเหตุที่ทำให้พวกเขาต้องมาบังเกิดเป็นปีศาจแบบนี้ ทั้งนี้ก็เกิดจากในสมัยที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ พวกเขามีใจหมกมุ่นหรือจมปลักอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ไม่ดีเป็นอย่างมาก จนลืมความเป็นตัวของตัวเองไป ยกตัวอย่างเช่น ในสมัยที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ พวกเขามีใจผูกพันอยู่กับวิชาไสยเวทย์สายดำแบบมากๆ ยิ่งไปกว่าพวกภูติ ซึ่งถ้าหากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพกันแบบง่ายๆ ก็คือปีศาจอาจจะเปรียบเสมือนกับอาจารย์ที่สอนวิชาไสยเวทย์ ส่วนพวกภูติก็เปรียบเสมือนกับลูกศิษย์ที่เรียนวิชาไสยเวทย์นั่นเอง หรือก่อนที่จะเสียชีวิต พวกเขามีใจผูกโกรธอาฆาตแค้นคนที่มาทำร้ายเป็นอย่างมาก เป็นต้น
 
พวกเขามีใจหมกมุ่นอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ไม่ดีเป็นอย่างมาก จนลืมความเป็นตัวของตัวเองไป
พวกเขามีใจหมกมุ่นอยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ไม่ดีเป็นอย่างมาก จนลืมความเป็นตัวของตัวเองไป
 
        ปีศาจตัวอย่างที่ 2. คือ ปีศาจที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายๆ กับเด็กทารกที่ยังไม่เกิด หรือมีการเจริญเติบโตที่ยังไม่เต็มที่ อีกทั้งพวกเขาจะมีดวงตาสีขาวหม่นหมองที่เบิกโพลง, มีรูจมูกเป็นช่องๆ และยังไม่ยื่นออกมาเหมือนจมูกคนปรกติ, มีปากที่กว้างมากเหมือนกับจะฉีกขาด และปากที่กว้างนั้นก็จะถูกเชือกร้อยและเย็บเอาไว้ให้ติดกัน ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะ ผลแห่งกรรมที่พวกเขาได้เคยทำคุณไสยใส่คนอื่น จนทำให้คนอื่นพูดไม่ได้หรือเป็นใบ้ ได้ย้อนกลับมาส่งผลกับพวกเขา
 
ปีศาจที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายๆ กับเด็กทารกที่ยังไม่เกิด
ปีศาจที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายๆ กับเด็กทารกที่ยังไม่เกิด
 
        นอกจากนี้ พวกเขายังมีรูปร่างที่ใหญ่โต น่ากลัว และผอมโซจนเห็นแต่ซี่โครงและกระดูก, มือแขนจะเล็กลีบ และนุ่งหยักรั้งสีดำ ไม่เพียงแค่นั้น ตามลำตัวของพวกเขายังมีแต่รอยสักเป็นลายพร้อยอยู่เต็มไปหมดอีกด้วย ที่เป็นเช่นนี้ก็เป็นเพราะ ผลแห่งกรรมที่พวกเขาได้เคยเป็นอาจารย์ที่สักยันต์ และลงอาคมให้กับลูกศิษย์เอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่
 
        ส่วนสาเหตุที่ทำให้พวกเขาต้องมาบังเกิดเป็นปีศาจแบบนี้ หรือปีศาจที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายๆ กับเด็กทารกที่ยังไม่เกิด ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ ในสมัยที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาเป็นจอมขมังเวทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำกุมารทอง โดยพวกเขาจะนำเอาซากหรือร่างของเด็กทารกที่เพิ่งตายใหม่ๆ มาทำพิธีสะกดวิญญาณเอาไว้ไม่ให้วิญญาณของเด็กทารกเหล่านั้นไปผุดไปเกิด
 
พวกเขาเป็นจอมขมังเวทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำกุมารทอง
พวกเขาเป็นจอมขมังเวทย์ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำกุมารทอง
 
        และเมื่อถึงคราวที่พวกเขาต้องละจากโลกนี้ไป วิชาไสยเวทย์สะกดวิญญาณก็ได้ย้อนกลับมาเข้าตัวของพวกเขาเอง จนเป็นผลทำให้พวกเขาต้องมาเกิดเป็นปีศาจที่มีรูปร่างลักษณะคล้ายๆ กับเด็กทารกที่ยังไม่เกิดและมีฤทธิ์มากนั่นเอง
 
        ปีศาจตัวอย่างที่ 3 คือ ปีศาจที่มีผมหยิก ตาปูดโปน ดุร้าย น่าเกลียดน่ากลัว และมีแววตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งพวกปีศาจเหล่านี้ จะมีฤทธิ์และมีความน่ากลัวมากกว่าพวกภูติเป็นอย่างมาก โดยพวกเขาจะชอบอาศัยอยู่แต่ในป่าหรือในถ้ำ
 
ปีศาจที่มีผมหยิก ตาปูดโปน ดุร้าย น่าเกลียดน่ากลัว
ปีศาจที่มีผมหยิก ตาปูดโปน ดุร้าย น่าเกลียดน่ากลัว
 
        ส่วนสาเหตุที่ทำให้พวกเขาต้องมาบังเกิดเป็นปีศาจแบบนี้ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะในสมัยที่พวกเขายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาเป็นถึงระดับปรมาจารย์ไสยเวทย์สายดำ ที่มีความช่ำชองและเชี่ยวชาญทางด้านการใช้ไสยเวทย์สายดำ ไปเบียดเบียนมนุษย์เป็นอย่างมาก ซึ่งอาจารย์ไสยเวทย์พวกนี้จะชอบอยู่กับป่ากับถ้ำ ด้วยเหตุดังกล่าวนี้เองจึงทำให้หลังจากที่พวกเขาละจากโลกนี้ไปแล้ว พวกเขาจึงต้องมาบังเกิดเป็นปีศาจตาปูดโปน ดุร้าย ชอบอาศัยอยู่แต่ในป่าหรือในถ้ำนั่นเอง
 
        ปีศาจตัวอย่างที่ 4 คือ ปีศาจที่มีผมหยิกฟู เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล มีกลิ่นกายเหม็นเน่าคละคลุ้ง และมีหน้าตาเละเทะ น่าเกลียดน่ากลัว ส่วนสาเหตุที่ทำให้พวกเขาต้องมาบังเกิดเป็นปีศาจแบบนี้ ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ พวกเขาถูกทรมานก่อนที่จะเสียชีวิต เช่น ถูกทารุณกรรม หรือถูกฆาตกรรม เป็นต้น เมื่อเป็นเช่นนี้จึงทำให้พวกเขารู้สึกโกรธแค้นและผูกพยาบาทอาฆาตคนที่มาทำร้ายพวกเขาเป็นอย่างมาก
 
ปีศาจที่มีผมหยิกฟู เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล มีกลิ่นกายเหม็นเน่าคละคลุ้ง มีหน้าตาเละเทะ น่าเกลียดน่ากลัว
ปีศาจที่มีผมหยิกฟู เนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผล มีกลิ่นกายเหม็นเน่าคละคลุ้ง
มีหน้าตาเละเทะ น่าเกลียดน่ากลัว
 
        และเมื่อพวกเขาได้เสียชีวิตลงไปแล้ว ด้วยจิตที่โกรธแค้นและผูกพยาบาทอาฆาตอย่างสุดๆ นี้เอง จึงดึงดูดให้พวกเขาต้องมาบังเกิดเป็นปีศาจที่มีผมหยิกฟู และมีเนื้อตัวเต็มไปด้วยบาดแผลดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั่นเอง
 
        ส่วนสาเหตุที่ทำให้พวกปีศาจเหล่านี้ไม่ต้องไปบังเกิดอยู่ในอบายนั้น ทั้งนี้ก็เป็นเพราะ ณ ช่วงเวลาที่พวกเขากำลังจะเสียชีวิต บาปที่พวกเขาได้เคยกระทำเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ยังไม่ได้ช่องที่จะส่งผลนั่นเอง
 
สาเหตุที่ทำให้พวกปีศาจเหล่านี้ไม่ต้องไปบังเกิดอยู่ในอบาย
สาเหตุที่ทำให้พวกปีศาจเหล่านี้ไม่ต้องไปบังเกิดอยู่ในอบาย
 
        เรื่องราวเกี่ยวกับภูติผีปีศาจนั้น ยังมีรายละเอียดและมีรูปแบบที่หลากหลาย ตามแต่วิบากกรรมที่พวกเขาได้เคยกระทำเอาไว้ในสมัยที่ยังมีชีวิตอยู่ อย่างไรก็ตาม รายละเอียดที่ลูกๆ ได้ศึกษาไปแล้วนี้ ก็พอที่จะเป็นแนวทางให้ลูกๆ ได้ไปศึกษาเรียนรู้ต่อไป
 
        จากเรื่องราว Case Study ของคุณพ่อศักดิ์ สุธีธร ที่เราได้ศึกษาเรียนรู้กันมานี้ ก็สอนให้เราได้รู้ว่า “ทุกชีวิตล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น และเมื่อเราทำกรรมใดไว้ เราก็จะต้องเป็นผู้รับผลของกรรมนั้น สมดังพุทธพจน์ที่ว่า กัมมุนา วัตตะตี โลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
 
ทุกชีวิตล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น
ทุกชีวิตล้วนตกอยู่ภายใต้กฎแห่งกรรมทั้งสิ้น
 
        ดังนั้น เราจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องศึกษาเรียนรู้เรื่องกฎแห่งกรรม ซึ่งเป็นคำสอนที่มีเฉพาะในพระพุทธศาสนาให้เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง เพื่อที่เราจะได้ดำเนินชีวิตได้อย่างถูกต้องและดีงามด้วยความไม่ประมาท อีกทั้งจะได้ตั้งใจสั่งสมบุญสร้างบารมี และประพฤติดีปฏิบัติชอบตามหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เช่น ละชั่ว ทำดี ทำจิตใจให้ผ่องใส หรือทำทาน รักษาศีล และเจริญสมาธิ(Meditation)ภาวนา เป็นต้น ถ้าเราทำได้เช่นนี้ ชีวิตการสร้างบารมีของเราจะได้อยู่รอดปลอดภัย และมีชัยชนะในเส้นทางการสร้างบารมีไปตราบกระทั่งถึงที่สุดแห่งธรรม”
 
        สำหรับเรื่องราว Case Study ของคุณพ่อศักดิ์ สุธีธร ในค่ำคืนนี้ ก็คงจะต้องจบลงพอสังเขปแต่เพียงเท่านี้ เอวํ ก็มีด้วยประการละฉะนี้
 
 
รับชมวิดีโอ
 

รับชมคลิปวิดีโอปรโลกนิวส์ โรงเรียนอนุบาลสุธีธร ตอนจบ
ชมวิดีโอปรโลกนิวส์ โรงเรียนอนุบาลสุธีธร ตอนจบ   Download ธรรมะปรโลกนิวส์ โรงเรียนอนุบาลสุธีธร ตอนจบ
 
 

http://goo.gl/ZHv2r


พิมพ์บทความนี้

ไปหน้าทบทวนฝันในฝัน



บทความอื่นๆ ในหมวด

      กิจกรรมพัฒนาวัดพิชิตปิตยาราม ต.บึงน้ำรักษ์ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี
      กิจกรรมพัฒนาวัดอู่ข้าว ต.คลอง 7 จ.ปทุมธานี
      อานุภาพบุญจากการมาสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ตอนที่ 1
      เล่าเรื่องคุณยายฯ ตอน ได้ตึก 18 ล้านแค่เพียงกระพริบตา
      เล่าเรื่องคุณยายฯ ตอน ความทรงอภิญญาของคุณยายฯที่ผมเจอกับตัวเอง
      ประกาศผลสุดยอดสามเณรแสดงธรรมระดับโลก
      เปิดใจสามเณรแชมป์แสดงธรรมระดับภาค ชิงชัยสู่เวทีแสดงธรรมระดับโลก
      ซุปเปอร์บิ๊กบุญ ตักบาตรแสนรูป ครั้งประวัติศาสตร์
      เส้นทางสามเณร สู่เวทีแชมป์เทศน์ระดับโลก
      เล่าเรื่องคุณยาย ตอน เรื่องเหลือเชื่อของการบูชาข้าวพระที่คุณยายฯฝากไว้
      บวชเณรล้านตักบาตรแสน สานฝันคุณยาย สร้างพระแท้
      เล่าเรื่องคุณยายฯ ตอน แค่มองหน้า..ก็รู้ทั้งหมด
      แฝด 4 บวชเณรล้านอ่างทองทำลายสถิติโลก