ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ.2554หนีอบายมาบวช
พลิกชีวิตด้วยการบวชตอน หนีอบายมาบวชเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยากราบคารวะพระเดชพระคุณหลวงพ่อที่เคารพอย่างสูงครับกระผม พระสงกรานต์ อุตโล อายุ 25 ปี บวชในโครงการแสนรูปเข้าพรรษารุ่นแรกครับ ปัจจุบันเป็นหัวหน้าศูนย์อบรมวัดช่องลม จังหวัดระนองครับ ก่อนมาบวช กระผมเป็นเจ้าของกิจการ เปิดร้านซ่อมคอมพิวเตอร์อยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่ครับ แต่พอเปิดไปเปิดมาก็ไม่ได้รวยขึ้นเลยครับ เพราะรายได้มันรั่วไหลไปกับการกิน เล่น เต้น เที่ยว ประดุจสิงห์ราตรีของกระผม หนำซ้ำกระผมยังติดยาอี สูบบุหรี่หนัก หมกมุ่นอย่างชนิดถอนตัวไม่ขึ้น จนกระทั่งสุขภาพของกระผมเริ่มแย่ลงเรื่อยๆ คือ ไอเป็นเลือด แต่กระผมก็ไม่รู้จะทำอย่างไรครับ เพราะกระผมแพ้ใจตัวเอง ไม่รู้จะหักห้ามใจตัวเองไม่ให้แตะต้องของพวกนี้ได้อย่างไร จึงพยายามถอยห่างจากสิ่งชั่วเหล่านี้ โดยตัดสินใจเดินทางกลับบ้านไปหาโยมแม่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช และฝากร้านให้ญาติดูแลไปก่อน เพราะอยากห่างจากกลุ่มเพื่อนที่ชวนไปมั่วสุมกับอบายมุข พระสงกรานต์ อุตโลแต่พอไปถึงนครศรีธรรมราช ก็ไปเจอเพื่อนประเภทนี้อีกครับ จนกระผมรู้สึกว่า ทำไมโลกนี้ มีแต่คนพรรค์นี้ก็ไม่ทราบ และพอเจอทีไร กระผมก็แพ้ทาง ใจอ่อนคล้อยตามเขาไปทุกที เหมือนน้ำมันที่ใกล้เปลวไฟ ที่พร้อมจะลุกไหม้ อย่างไรอย่างนั้นเลยครับ จนโยมแม่ของกระผมเสียใจมาก ถึงกับยื่นคำขาดกับกระผมว่า “ให้เลิกซะนะ ถ้าเลิกไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาให้แม่เห็นหน้าอีก” หลวงพ่อครับ กระผมขอเรียนตรงๆว่า ตอนนั้นกระผมมืดแปดด้านเลยครับ เพราะกลัวแพ้ใจตัวเองเหมือนทุกครั้งที่ผ่านๆมา และในช่วงที่กระผมกำลังสับสนอยู่นั่นเองครับ กระผมก็เหลือบไปเห็นดีเอ็มซีที่โยมแม่เปิดเอาไว้ เห็นเขานำเสนอโครงการบวชพอดี พอฟังจบกระผมก็คิดได้ทันทีเลยครับว่า “เราไปบวชดีกว่า จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่กับสิ่งดีๆ” แล้วกระผมก็ตัดสินใจเข้าโครงการทันที ณ ศูนย์อบรมวัดมุขทาราม จังหวัดนครศรีธรรมราชในช่วงแรกๆของการอบรม เป็นช่วงที่กระผมต้องสู้กับตัวเองอย่างสุดฤทธิ์เลยครับ เพราะแทบจะลงแดง เกิดอาการเสี้ยนยา เนื่องจากหักดิบมาใหม่ๆ แต่กระผมก็ผ่านพ้นมันไปได้ครับ ด้วยคำว่า “สู้โว้ย” โดยการไปขอลูกอมจากพระอาจารย์มาอมบ้าง ไปขอเกลือแร่มาดื่มบ้าง และไม่นานกระผมก็มีชีวิตอย่างคนปกติ จนถึงวันเดินทางมาบรรพชาที่วัดพระธรรมกาย วันนั้นกระผมอัศจรรย์ใจมากครับ เพราะไม่คิดไม่ฝันว่าจะเห็นชายไทยจากทั่วทุกสารทิศ พากันเดินทางมาบวชแบบมืดฟ้ามัวดิน มากมายถึงขนาดนี้ กระผมรู้สึกปลื้มจนน้ำตาซึม และนึกภูมิใจเหลือเกินว่า “เรา คือ ฮีโร่ในวงการพระพุทธศาสนา ที่มาเป็นหนึ่งในแสนรูปได้” พระสงกรานต์ อุตโลหลังจากบวชแล้ว กระผมได้นั่งสมาธิ(Meditation)มากขึ้น จนกระทั่งวันหนึ่ง ได้มีโอกาสเข้าไปนั่งสมาธิในวิหารพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ วันนั้นแปลกมากเลยครับ เพราะใจกระผมนิ่งสงบมาก เหมือนปลอดกังวลในทุกสิ่งอย่างบอกไม่ถูก และพอนั่งไปสักพัก จู่ๆก็เกิดแสงสว่างขึ้นกลางท้อง และพอมองๆไป ก็เห็นตัวเองอยู่ในท้องครับ จากนั้นกระผมก็มองต่อไปเรื่อยๆ ตัวกระผมก็เปลี่ยนเป็นองค์พระขนาดเท่าฝ่ามือ และองค์พระก็ขยายใหญ่ขึ้นเท่าตัวเอง ใสสว่างจนกระผมปลื้มมากอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน จนกระผมเกิดความเข้าใจและตอบกับตัวเองได้ว่า “ชีวิตสมณะสุขอย่างนี้นี่เอง” จากประสบการณ์ภายในตรงนี้เองครับ หลังจากจบโครงการแล้ว กระผมจึงตัดสินใจที่จะบวชต่อไปวันต่อวัน และที่สำคัญไม่อยากสึกออกไปเจอวังวนอบายมุขที่ชักนำตัวเองไปสู่อบายภูมิอีกตั้งแต่กระผมมาบวช โยมแม่ก็บอกว่าไม่อยากให้กระผมสึก เพราะนอกจากกระผมจะพลิกชีวิตได้แล้ว ยังทำให้ชีวิตของโยมแม่พลิกไปด้วย กล่าวคือ โยมแม่ได้มีโอกาสเข้าวัดปฏิบัติธรรมมากขึ้น จากที่ไม่เคยบวชอุบาสิกาแก้ว ก็มาบวช ณ ศูนย์อบรมที่พระลูกชายเป็นหัวหน้าศูนย์ และหลังจากที่โยมแม่เข้าวัดฟังธรรมอย่างจริงจัง ปัญหาติดขัดต่างๆในชีวิตก็หมดไปอย่างเหลือเชื่อ เช่น เรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลที่ตกลงกันไม่ได้ พอเข้าวัดก็ยกฟ้องกันไป เพราะตกลงกันได้ดีกว่าเดิมอีก จนตอนนี้โยมแม่สบายใจมากครับ จึงมีแรงเชียร์ให้กระผมบวชต่ออย่างเต็มที่ หลวงพ่อครับ ตอนนี้กระผมปลอดกังวลแล้วครับ มีความสุขมากกว่าเป็นฆราวาสมากจริงๆครับ แม้งานบุญจะหนัก แต่ยิ่งทำก็ยิ่งมีความสุข เพราะรู้ว่า “เราทำไปทำไม ทำแล้วได้อะไร” โดยเฉพาะบุญจากการชวนคนบวช บุญจากการเป็นพระอาจารย์ ได้ทำให้กระผมฝึกตัวอย่างยิ่งยวดเลยครับ สุดท้ายนี้ กระผมขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อมากครับ ที่ให้โอกาสกระผมมาบวช เพราะโครงการบวชเป็นโครงการที่มีขึ้นเพื่อพลิกชีวิตมนุษย์ไปสู่แสงสว่างอย่างแท้จริงครับ และกระผมจะสานฝันของหลวงพ่อ ทำโครงการบวชต่อไปเรื่อยๆ เพราะอยากจะให้โอกาสแก่คนอื่นๆ ให้เขาพบที่พึ่งที่แท้จริง ให้เขาเข้าใจในเรื่องบุญบาป และไปพัฒนาวัดร้างให้เป็นวัดรุ่ง ให้จงได้ครับ กราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงพระสงกรานต์ อุตโลอ่านรายละเอียด...
http://goo.gl/swJ8z