ทบทวนฝันในฝัน วันที่ 11 มกราคม พ.ศ.2554
กลับมานับถือพระรัตนตรัยแล้วครับ
เกาะติดสถานการณ์ เปิดบ้านกัลยาณมิตร Change the Worldตอน กลับมานับถือพระรัตนตรัยแล้วครับเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาสนใจโครงการบ้านกัลยาณมิตร Change the World คลิกที่นี่กระผมชื่อ ครูเก่ง หรือ วัชรพงศ์ อิ่มลอยนวล แม้กระผมจะมีอาชีพหลักเป็นครู มีอาชีพเสริมเป็นนักร้อง แต่อาชีพที่แท้จริงก็คือ...อาชีพนักสร้างบารมีครับ บ้านกระผมอยู่จังหวัดอยุธยา กระผมเคยมาบวชสองรุ่น คือ รุ่นแสนแรก และพอบวชเสร็จก็ไปชวนพ่อมาบวชรุ่นแสนเข้าพรรษาพร้อมกันอีกทีครับ และขณะเดียวกันกระผมก็ชวนแม่มาบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนไปสองรุ่นติดกันแล้วครับ หลวงพ่อครับ...ก่อนที่กระผมจะเล่าเรื่องการเปิดบ้านกัลยาณมิตร กระผมขอเล่าอะไรบางอย่างก่อนได้ไหมครับ กล่าวคือ...กัลฯวัชรพงศ์ อิ่มลอยนวล (ครูเก่ง)กาลครั้งหนึ่งไม่นานเลยครับ ย้อนหลังไปแค่สามปี กระผมได้ซื้อที่ดินที่เป็นป่าทึบมาปลูกบ้าน เพราะมันราคาถูกครับ จากนั้น กระผมก็ตัดต้นไม้ใหญ่ขนาดมหึมาทิ้ง แล้วก็เผาตอมันครับ แต่แล้วกระผมก็ได้เจอกับสิ่งที่ไม่คาดคิด คือ ไม่ว่าจะเผาด้วยวิธีการไหน จะเผาสักกี่ครั้ง ก็ไม่ไหม้ครับ ซึ่งพระได้บอกว่า...ต้นไม้ใหญ่นี้มีภุมมเทวาอยู่ เขาอยู่ที่นี่มานาน แล้วก็ไม่ยอมให้ใครมาอยู่ที่นี่ด้วยแม่ของกระผมเลิกนับถือเจ้า หันมานับถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งแล้วครับซึ่งก็น่าจะจริงครับ เพราะนับจากที่กระผมย้ายมาอยู่ที่นี่ ปรากฏว่า...อยู่ๆแม่ของกระผมก็มีอาการแปลกๆ คือ ชักสั่นเหมือนผีเจ้าที่มาเข้าสิง ทำหน้าส่ายไปส่ายมา เสียงเปลี่ยนไปเป็นเสียงใหญ่ๆเหมือนผู้ชาย ท่านมีอาการอย่างนี้หลายครั้งมาก จนกระผมเครียด และไม่รู้จะทำอย่างไร จนมีคนบอกว่าต้องพาไปรับขันธ์ พอกระผมพาท่านไปรับขันธ์กลับมา ปรากฏว่า...แทนที่จะหาย ยิ่งไปกันใหญ่เลยครับ คราวนี้องค์ลงเต็มตัว...ตัวสั่นกระแทกหนักกว่าเดิม ทั้งองค์ ทั้งเทพ ทั้งเจ้า ทั้งผี อะไรต่อมิอะไรลงแม่เต็มไปหมด ซ้ำยังลงสิงอยู่ในตัวแม่ทุกวันและทั้งวัน จนแม่ของกระผมเหมือนคนหลุดโลกไปแล้วครับซ้ำร้ายหนักไปกว่านั้น ตั้งแต่กระผมย้ายมาอยู่ในบ้านหลังนี้ ก็มีความเป็นไปต่างๆนานาเกิดขึ้นในชีวิตของกระผมตลอด คือ มองไปรอบทิศก็มีแต่เรื่องแย่ๆในชีวิตรอบตัว จนตอนหลังกระผมจึงมาบวชรุ่นแสนรูป แล้วพบช่องทางแก้ปัญหานี้จากกรณีศึกษากฎแห่งกรรม (Case-Study)-เรื่องสิงๆทรงๆจากหลวงพ่อครับ หลังจากนั้น...กระผมจึงบอกให้แม่หันมายึดพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง และให้เลิกเรื่องสิงๆทรงๆอย่างเด็ดขาด เพราะที่ผ่านมาเราหลงผิดทาง เพราะความไม่รู้ และหลังจากที่กระผมลาสิกขาแล้ว ก็กลับไปจุดธูปบอกกับองค์เทพเจ้าทั้งหมดว่า...ต่อไปนี้กระผมจะขอยึดถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง เพราะพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกที่แท้จริง เมื่อทำบุญอะไรก็จะอุทิศบุญไปให้ เพื่อให้องค์เทพยอมให้ครอบครัวของกระผมอยู่ที่นี่อย่างผาสุกสักที จากนั้น กระผมก็พาแม่ออกจากวงจรสิงๆทรงๆ โดยการมาบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน รุ่นห้าแสน พอบวชเสร็จ แม่ก็ได้มาวัด แล้วก็มาร่วมบุญซื้อป้ายบ้านกัลยาณมิตรกลับไป ตอนแรกกระผมเห็นป้ายนี้ ก็เป็นงงครับว่า แม่ซื้อมาทำไม แต่พอหยิบป้ายนั้นขึ้นมา แล้วพลิกไปดูด้านหลัง ก็เห็นเขียนว่า...ตั้งแล้วรวย กระผมก็คิดว่าสงสัยแม่คงอยากรวย แต่กระผมก็ได้แต่ปล่อยให้ป้ายนั้นตั้งอยู่ในบ้านอย่างเก้อๆ เพราะไม่รู้ว่าจะต้องเอามาทำอะไรจริงๆครับ ต่อมา แม่ก็มาบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อน รุ่นล้าน ครั้งล่าสุดอีก ซึ่งหลังจากที่แม่หันมายึดถือพระรัตนตรัยเป็นที่พึ่ง สวดมนต์นั่งสมาธิ(Meditation)ทุกวัน องค์มาลงร่างแม่น้อยลงเรื่อยๆ จนกระทั่งแทบจะไม่มาลงเลย และยิ่งในช่วงบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนรุ่นล้าน แม่ของกระผมก็ได้มาทางพระเต็มตัว องค์ก็หายไปเลยครับ และยิ่งกว่านั้น...พอบวชอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนกลับมา หลวงพ่อก็มีโครงการเปิดบ้านกัลยาณมิตร รวมคนมาสวดมนต์นั่งสมาธิที่บ้าน กระผมจึงได้คำตอบว่า...ป้ายบ้านกัลยาณมิตร เขาเอาไว้ทำอะไร แต่และแล้ว เรื่องราวอันไม่คาดคิดก็ได้เกิดขึ้นอีกจนได้ครับ คือ ในวันที่กระผมเปิดบ้านกัลยาณมิตรวันแรก กระผมชวนอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนมากันที่บ้านร่วม 30-คน จนนั่งล้นออกไปนอกประตูบ้าน ซึ่งในขณะสวดมนต์นั่งสมาธิ อยู่ๆแม่ของกระผมก็มีอาการสั่น ส่งเสียงดัง...อื้อๆ ส่ายหัวไปมาอีกแล้วครับ พระอาจารย์ก็ตกใจครับ เพราะตั้งแต่บวชมาก็ไม่เคยเจอแนวนี้ ท่านจึงรีบรวบรวมสติทั้งหมด อธิษฐานขอบารมีพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ หลวงพ่อ คุณยายอาจารย์ ว่า...อย่าเพิ่งให้เจ้าลุกขึ้นมาอาละวาดอะไรตอนนี้เลย เดี๋ยวอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนทั้ง 30-คนจะแตกตื่นกันหมด ซึ่งพระอาจารย์ได้นำนั่งสมาธิต่อโดยทำเป็นไม่สนใจอะไร แต่จริงๆ...สนจะแย่อยู่แล้วครับ พระอาจารย์ณรงค์เดช และพระอนุสรณ์ เมตตามาเปิดบ้านกัลยาณมิตรให้กระผมครับจนสุดท้าย พระอาจารย์ก็ทนไม่ไหว ตัดสินใจยิงคำถามเจ้าที่มาเข้าแม่ว่า “มาเข้าทำไม”-เจ้าก็ตอบว่า “ฉันไม่ได้มาทำอะไรหรอก ก็อยากจะมาเอาบุญวันนี้ด้วย”-พอพระอาจารย์ทราบจุดประสงค์ที่แท้จริงของเจ้าแล้ว ท่านก็ไม่รอช้าครับ รีบนำอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนทั้ง 30-คน แผ่เมตตาอุทิศบุญจากการเปิดบ้านกัลยาณมิตรให้เจ้าแบบทันควันเลยครับ เพื่อรับๆแล้วจะได้รีบไปๆ ซึ่งก็จริงๆครับ เมื่อเจ้าได้บุญแล้วก็ยอมออกแบบง่ายๆ เพราะปกติหากเจ้าลง ก็จะอยู่ในร่างแม่เป็นวันเลยครับ แต่คราวนี้อยู่แค่แป๊บเดียวเท่านั้นอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนนั่งสมาธิ จนล้นออกมานอกบ้านเลยครับบรรยากาศนั่งสมาธิในบ้านของกระผมครับหลวงพ่อครับ...เรื่องนี้เล่นเอากระผมใจหายหมดเลยครับ แต่ก็เป็นการยืนยันคอนว่า แม้เจ้ายังอยากได้บุญจากการเปิดบ้านกัลยาณมิตรเลยครับ และพระรัตนตรัยก็เป็นที่พึ่งที่ระลึกอันสูงสุดจริงๆครับ เพราะขนาดเจ้ายังหันมานับถือพระ ยอมมาสวดมนต์นั่งสมาธิในร่างแม่เลยครับ แต่กระผมว่า...ทางที่ดี อยากให้เจ้ามาสวดมนต์นั่งสมาธิ แต่ไม่ต้องเข้าร่างแม่ก็จะดีกว่านี้ครับ เพราะแม่ก็ไม่อยากให้เจ้ามาเข้าอีกแล้ว เพราะเลิกนับถือกันไปแล้วอุบาสิกาแก้วหน่ออ่อนมาร่วมกันสวดมนต์ เปิดบ้านกัลยาณมิตรกันเต็มบ้านสุดท้ายนี้ กระผมขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่ออย่างสูงสุดนะครับ ที่ทำให้ครอบครัวของกระผมมีสรณะที่แท้จริงเป็นที่พึ่ง อีกทั้งหลวงพ่อได้ทำฝันของกระผมให้เป็นจริงครับ เพราะนับจากนี้ไป ทุกวันอังคาร...บ้านของกระผมจะมีการสวดมนต์อย่างนี้เป็นประจำครับกราบนมัสการด้วยความเคารพอย่างสูงวัชรพงศ์ อิ่มลอยนวลชม Video Scoopโครงการบ้านกัลยาณมิตร Change the World
http://goo.gl/aI96D