Mobile Versionทบทวนฝันในฝัน วันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ.2553การเดินธุดงค์ของพระเดชพระคุณพระเทพสุวรรณโมลี(หลวงพ่อสอิ้ง) เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรีเรียบเรียงจากรายการโรงเรียนอนุบาลฝันในฝันวิทยาพระเดชพระคุณพระเทพสุวรรณโมลี ได้ออกเดินธุดงค์ตั้งแต่เมื่อเดือนธันวาคม ปี พ.ศ.2494_ตอนนั้นท่านอายุ 18_ย่าง 19-ปี_ท่านกล่าวว่า พอบวชได้หนึ่งพรรษา รับกฐิน และสอบธรรมแล้ว ท่านก็ออกเดินธุดงค์ทันที ในครั้งนั้น มีพระผู้ใหญ่ร่วมเดินธุดงค์ด้วยสามรูป มีสามเณรสองรูป (รวมท่านด้วย)_โดยเดินธุดงค์เรื่อยไป จากจังหวัดสุพรรณบุรีขึ้นเหนือสู่จังหวัดเชียงใหม่ เส้นทางค่อนข้างยากลำบาก ต้องเดินตามทางเกวียน บุกป่าฝ่าดง เพราะถนนหนทางยังไม่สะดวกสบายอย่างปัจจุบัน โดยท่านจะเริ่มเดินเวลาประมาณหกโมงเช้า พักหนึ่งครั้งในช่วงเพล เดินต่อจนถึงเวลาเย็น ก็จะปักกลดพักในบริเวณที่ไม่ห่างจากหมู่บ้าน ท่านบอกว่า สมัยนั้นชาวบ้านให้ความเคารพเลื่อมใส ศรัทธาในพระธุดงค์มาก ทุกที่ที่ปักกลด จะมีชาวบ้านมาสนทนาธรรมกับพระธุดงค์ มาสวดมนต์กับพระธุดงค์ ตอนเช้านอกจากจะออกบิณฑบาตแล้ว ก็ยังมีชาวบ้านตามมาถวายภัตตาหารถึงที่ปักกลดอีกด้วยพอถึงจังหวัดเชียงใหม่ ท่านก็ได้ธุดงค์ไปกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เนื่องด้วยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยเริ่มต้นด้วยการขึ้นไปกราบพระบาทสี่รอย อำเภอแม่ริม ซึ่งสมัยนั้นเข้าถึงยากมาก ยังไม่เป็นที่รู้จัก เส้นทางก็ลำบากมาก ต้องเดินไปตามไหล่เขา ผ่านป่าทึบ ผ่านยอดเขา 19-ยอด ผ่านลำธารอีก 21-แห่ง กว่าจะถึงพระบาทสี่รอย ก็เป็นเวลาเที่ยง พอสักการะพระบาทเสร็จ ก็เดินลงเขา เข้าสู่ตัวเมืองจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อไปสักการะพระธาตุจอมทอง เสร็จแล้วก็ข้ามแม่น้ำท่าลี่ ไปยังจังหวัดลำพูน ไปสักการะพระบาทตากผ้า แล้วจึงเข้าไปยังตัวเมือง เพื่อไปกราบพระธาตุหริภุญชัย จากนั้น ได้ธุดงค์ลงมายังจังหวัดอุตรดิตถ์ ไปสักการะพระแท่นศิลาอาสน์ (ตามคำโบราณกล่าวว่าเป็นพระแท่นที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรม)_แล้วท่านก็ธุดงค์ต่อไปยังเมืองเก่าจังหวัดสุโขทัย ซึ่งสมัยนั้นรกร้างมาก เต็มไปด้วยป่าไผ่ ยังไม่มีการบูรณะอย่างในสมัยนี้ เสร็จแล้วจึงย้อนไปยังจังหวัดพิษณุโลก เพื่อไปสักการะพระพุทธชินราช และไปต่อที่จังหวัดพิจิตร ไปสักการะหลวงพ่อเพชร แล้วก็ธุดงค์ไปสักการะรอยพระพุทธบาทจังหวัดสระบุรี แล้วต่อไปยังจังหวัดอยุธยา ไปสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ตามวัดเก่าๆในจังหวัดอยุธยา เสร็จแล้วท่านจึงธุดงค์กลับไปยังจังหวัดสุพรรณบุรี รวมระยะทางไป-มา ประมาณหนึ่งพันเจ็ด-หนึ่งพันแปดร้อยกิโลเมตร มาถึงวัดสองพี่น้องราวๆเดือนสาม (มีนาคม ปี พ.ศ.2494) รวมแล้วสามเดือนเศษๆ พระเดชพระคุณพระเทพสุวรรณโมลี ยังกล่าวว่า ตลอดการเดินธุดงค์ เป็นไปเพื่อประโยชน์อย่างแท้จริง ทันทีที่เอากลดขึ้นบ่า ก็ภาวนาและสวดมนต์ตลอดทาง จึงทำให้ไม่ต้องพบกับอุปสรรค และยังได้ขัดเกลากิเลส ทำให้จิตใจอยู่ในบุญกุศล ท่านปีติใจในบุญกุศลที่เกิดจากการเดินธุดงค์เป็นอย่างมาก และด้วยอานิสงส์การเดินธุดงค์ในครั้งนั้น ทำให้ท่านบวชมาจนถึงทุกวันนี้ ท่านฝากถึงพระธรรมทายาทที่จะได้เดินธุดงค์ธรรมชัย ไปพัฒนาวัดต่างๆว่า เป็นโครงการที่ดีมากๆ ทุกรูปจะได้ช่วยกันฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ทำให้วัดที่กำลังจะรกร้างกลับมารุ่งเรือง ทำให้ศรัทธาสาธุชนตื่นตัวและเข้มแข็ง ขอให้ตั้งใจเดินธุดงค์ให้ดี และควรให้บรรลุเป้าหมายอันสูงสุดในทุกย่างก้าว ด้วยการภาวนาสัมมาอะระหังไปทุกๆก้าว อย่าปล่อยใจให้ล่องลอยไร้จุดหมาย แล้วจะได้บุญกุศลทุกก้าว เวลานั่งสมาธิ(Meditation)ปฏิบัติธรรมก็จะเข้าถึงพระธรรมกายได้โดยง่าย
http://goo.gl/eHBCn
พิมพ์บทความนี้
